บทสัมภาษณ์คุณแอน (เพราะชีวิตไม่ใช่เกม)

เพราะชีวิตคือสิ่งสำคัญ

เราได้นัดหมายอีกหนึ่งคนที่ได้รับรางวัลจากโครงการ ‘Innowhale Social Ideation Day’ ในประเด็นเรื่องการสวมหมวกกันน็อค ซึ่งก็คือคุณแอน ผู้ที่ส่งไอเดีย ‘เพราะชีวิตไม่ใช่เกม’ เข้าประกวด คุณแอนเล่ามุมมองเรื่องชีวิตในแบบของเธอ ที่นำมาประยุกต์จนกลายเป็นไอเดียที่ได้รับรางวัลจากเรา

“จริง ๆ แอนเป็นคนที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับชีวิตค่ะ ตอนสมัยเรียนหรือทำงานก็มีคนรู้จักเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สาเหตุไม่ได้มาจากหมวกกันน็อคนะคะ เป็นเรื่องขับรถเร็วเกินและรถคว่ำ อีกเคสคือรถชนกันจนเขาเสียชีวิต เราก็จะค่อนข้างเฟลมากเวลาได้รับรู้เรื่องคนรู้จักที่ต้องตายไปจากอุบัติเหตุที่มันไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตเขา เราอยากจะให้เขามีชีวิตยืนยาวกว่านี้ เลยรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น”

ทำความเข้าใจปัญหาผ่านมุมมองตัวเองในสมัยวัยรุ่น

“สมัยเรียนช่วงอยู่มัธยม ตอนเลิกเรียนกลับบ้านก็เห็นคนอื่น ๆ เขาจะซ้อนสองซ้อนสามแล้วก็ไปด้วยกันโดยไม่ใส่หมวกกันน็อคเป็นประจำ คือเห็นแบบนี้จนเหมือนเป็นเรื่องปกติเลย ซึ่งตอนเด็ก ๆ เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ใส่ก็ใส่ ไม่ใส่ก็คือไม่ใส่ ตอนนี้ที่เราทำงาน เราโตขึ้น พอมาคิด ๆ ดูเราเองก็เคยมีโมเมนต์ที่ไม่ชอบใส่หมวกกันน็อคตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน เพราะถ้าใส่หมวกกันน็อคมันจะร้อน ผมก็เปียก มันจะอึดอัดรอบหัวไปหมดเลยค่ะ คิดว่าเขาอาจจะรู้สึกเหมือนเราก็ได้นะ ไม่สบายหัวก็เลยไม่อยากใส่ ตอนนั้นไม่ได้คิดเลยค่ะว่า อ้าว แล้วถ้ามีรถมาเบียดมาชนแล้วเกิดอุบัติเหตุ หมวกกันน็อคมันจะช่วยตรงนี้ได้นะ”

“เราไม่ได้คิดถึงว่าเราจะต้องมีชีวิตอยู่ไปอีกนานแค่ไหน โตขึ้นจะต้องทำงานต้องนั่นต้องนี่ คิดแค่ว่าวันนึงเราต้องไปเรียน กลับบ้านก็กลับบ้าน หมวกมันร้อนไม่อยากใส่ก็คือจบ ไม่ได้คิดถึงชีวิตที่มันจะต้องเกิดขึ้นอีกในอนาคตเลยค่ะ เด็กที่เป็นกลุ่มเป้าหมายก็น่าจะคิดแค่นั้นเพราะตัวเราก็เคยเป็น ไม่ชอบก็ไม่ใส่ จบ”

.

จินตนาการต่อยอดจนเป็น ‘เพราะชีวิตไม่ใช่เกม’ 

“ประเด็นที่ทางโครงการให้ส่งไอเดีย เราก็สนใจทั้งหมดเลยนะคะ แต่ที่เลือกประเด็นหมวกกันน็อคเพราะมันเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับชีวิตคน อย่างที่บอกว่าเราไม่อยากให้ใครตายหรือว่าเสียชีวิตเพิ่ม เราคิดเองเออเองคนเดียวอยู่หลายแบบ คิดไปคิดมาก็คือนึกถึงมุมเด็กด้วย เด็กเขาจะมีความคิดเป็นของตัวเองสูง แล้วเขาก็จะมีความติดเพื่อนกับติดเกม ส่วนตัวเป็นคนเล่นเกมเหมือนกัน และรุ่นน้องที่รู้จักกันก็จะชอบ line มาชวนเล่นเกม เราเลยคิดว่าเด็กสมัยนี้ชอบเล่นเกมเนอะ งั้นตั้งต้นที่เกมก่อน แล้วปรับให้เข้ากับเรื่องคุณค่าของชีวิตเขา เพราะเกมถ้ามันตายก็สามารถเกิดใหม่ได้ แต่คนมันไม่เหมือนเกมนะ ถ้าตายแล้วคือตายเลยนะ แล้วคิดต่อว่าถ้าจะสื่อสารกับเด็กมันจะผ่านทางไหนได้บ้าง ก็เลยนึกถึงโรงเรียน เพราะวัยเด็กก็คือวัยที่เขาต้องไปโรงเรียนทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ก็อาจจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรียน งั้นเอาที่โรงเรียนดีกว่า”

.

ให้ครูแนะแนวเป็นผู้แนะนำการใช้ชีวิต

“ในโรงเรียนมันก็จะมีคลาสครูแนะแนวอะค่ะ เราอยากให้คลาสเรียนของคาบครูแนะแนวมันเกิดประโยชน์เพิ่มมากขึ้น แล้วคำว่าแนะแนวก็คือเราแนะแนวให้มันเกิดในทางที่ดีขึ้น เลยคิดว่าเอาหมวกกันน็อคและความปลอดภัยของชีวิตมาอยู่ในคลาสนี้จะดีไหม โดยใช้คอนเซป ‘เพราะชีวิตไม่ใช่เกม’ อยากจะอาศัยคุณครูเป็นเครื่องมือนำทางในการช่วยพูด เกี่ยวกับความสำคัญของชีวิตมาเปรียบเทียบตัวคนกับเกม มันก็จะเกิดกระบวนการคิดระหว่างครูกับนักเรียนซึ่งกันและกันด้วย ซึ่งจุดประสงค์ของคลาสนี้คืออยากให้ครูหาภัยอันตรายรอบตัว หรือหาข่าวเกี่ยวกับความประมาทในชีวิตที่เกิดขึ้นให้เด็กฟัง เช่น ข่าวยาเสพติด ข่าวขับรถเร็วเกิน หรือไม่ใส่หมวกกันน็อคก็อยู่ในก้อนนี้ด้วย คือไม่ได้เจาะจงถึงหมวกกันน็อค เน้นถึงความประมาทของคนเราแทนค่ะ”

“เราเชื่อว่า การที่คุณครูได้พูดกับเด็กเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็จะสร้างคุณค่าในตัวครูด้วย เหมือนพูดเพื่อให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญในการมีชีวิตอยู่ต่อไป พอเริ่มมีเด็กเริ่มหันมาใส่หมวกกันน็อค เด็กก็จะมีพฤติกรรมการทำตาม ๆ กัน ก็จะทำให้เด็กวัยรุ่นใส่หมวกกันน็อคมากขึ้นค่ะ”

.

ในประเด็นหมวกกันน็อคมีทั้งหมด 2 ไอเดียที่ได้รับรางวัลจากโครงการ นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นนึงที่ได้รับรางวัลถึง 4 ไอเดีย นั่นคือประเด็น ‘สุขภาพจิตเด็กและความสัมพันธ์ในครอบครัว’ รอติดตามกันนะ 😀